การอัญเชิญเทวรูป เข้าเคหะสถาน หรือขึ้นหิ้งบูชา

1. มีคนถามว่า ต้อง จุดธูปบอกเจ้าที่ ศาลพระภูมิมั้ย อันนี้เป็นคติความเชื่อคนไทย ครับ ไม่จำเป็น เพราะ ท่านเป็น มหาเทพ จะต้องไป ขออนุญาต ผีเจ้าที่ พระภูมิเจ้าที่ ทำไม 
2. ได้เทวรูป จากไหน หรือ วัสดุอะไร หรือที่เหมาะที่ควร คำตอบคือ เทวรูป ต้องมาจากธรรมชาติ หรือธาตุทางธรรมชาติ ไม่ใช่สิ่งสังเคราะห์ ยกตัวอย่างง่ายๆ ไม่มี เทวรูป เรซิ่นในเทวาลัยที่ไหน ในอินเดียหรือ เนปาล ครับ ธาตุที่กระแสพลังจะสถิตอยู่คือ นวโลหะ หรือ สำริด ดีที่สุด หรือโลหะ 
อื่น แต่ไม่ใช่เงิน เพียวๆ หิน หรือ ไม้ หรือ ดิน หรืออะไร ก็ตามที่มาจากธรรมชาติ แต่ไม่มาจาก สัตว์ เช่น งา ตามคติอินดูถือว่าผิดเพราะเป็นการ 
ฆ่า สมัยก่อนได้ เพราะว่าไม่ได้ ฆ่าแต่รอ ให้ตายแล้วจึงเอามา จึงไม่เป็นที่นิยม กันเท่าไหร่ เพราะ แพง และหายาก เป็นที่ต้องห้าม ปัจจุบันจึงไม่ 
แนะให้หา งา มาทำเป็น เทวรูป ครับ 
อย่าให้ความกังวลมาทำให้ความปีติใจที่จะได้บูชาองค์ กาเณช ลดลงเพราะความกังวล ครับ 

ส่วนเรื่องวิธีการอัญเชิญนะครับ เมื่อนำเทวรูปเข้ามาในบ้านแล้ว อัญเชิญท่านยังที่อันควร ก่อนเชิญไปที่ตั้งบูชา ให้สรงน้ำนะครับ เริ่มที่พระบาทก่อน(ปาทยํ) เสมือนกับเราได้ทำการต้อนรับผู้ใหญ่เข้าบ้านนะครับ ให้มีจิตอย่างนั้นก็เป็นอันใช้ได้ แล้วทรงพระหัตถ์ ทรงพระพักตร์และ สรงด้วยนมสด ( 
ถ้าทำได้ ในที่นี้ คือ นม จืดไม่พร่องมันเนย) แต่ไม่ใช่การ อัมบิเชกัมนะครับ อย่าเอาไปปนกัน เสร็จแล้ว สรงน้ำชำระล้างให้สะอาดอีกทีจากนั้น 
แต้มผงสินทูร(ผงสีแดง มีขายที่พาหุรัด)ที่พระนลาฏ(หน้าผาก)หากหาไม่ได้ ก็ใช้ของหอมจุลเจิมท่าน (น้ำอบ น้ำหอม) ถวายดอกไม้พวงมาลัย จุดธูปถวาย 5 ดอก) แล้วถวายอาหาร(ขนมที่ไม่มีไข่เจือปน) หรือ นมสด ผลไม้ต่างๆ จากนั้นจึงอธิษฐานในใจ อัญเชิญให้ท่านเข้ามาประทับในบ้านเรือนของเรา 
เพื่อเป็นสิริมงคล ให้มีความสุขที่ได้ต้อนรับอัญเชิญท่านจากนั้นนำท่านประทับยังที่ประดิษฐาน ก้มกราบลงเป็นอันเสร็จครับ 
แบบสั้นๆ ที่คนทั่วไป สามารถทำได้ โดยไม่ต้องมีพิธีกรรมอะไร มากมายนัก เรื่องขนม มีคนถามมากมายว่าทำไมจึงไม่ควรมีไข่ คำตอบ คือความสะอาดครับ เพราะ ไข่เวลามันออกมานั้น มันออกมาจากทางไหนครับ จบข่าว 555 ไม่ได้พูดถึงเป็นมังสะ นะครับ เพราะ ถวายเนื้อสัตว์ไม่ได้ อยู่แล้วหรือ ของคาวไม่ได้เพราะ คนฮินดุ บอกได้ เลยครับ ทานมังสะกัน ท่านลองไปเดินในเนปาลหรือ อินเดีย เอารัฐทางใต้ เลย ทมิฬ นาดู๊ เนี่ย มีแต่ร้านอาหาร มังสะ ทั้งนั้น ยิ่งใกล้วัดยิ่งหาเนื้อหนัง มาทาน
ยากมากๆ ครับ หิว หมู หิวไก่กันไปข้างเลย เพราะมันไม่มี ดอกไม้ต้องห้าม นอกจาก เยียบีร่า ซึ่งเป็นความเชื่อของ ไวศณพนิกาย สาแล้วยังมี อีก ลองทายกัน แต่สายศักติไม่สนเยียบีร่า จะไว้ก็ได้ แต่ยกเว้น ดอกไม้ 1 ชนิดที่ไม่นิยมบุชากัน เพราะคุณจะไม่พบ ใน เนปาลว่ามีใครเอาดอกนี้ไปไหว้ เทพ หรือ อินเดียใต้ ก็ไม่มีใครเอาไปไหว้เช่นกัน อันนี้คติฮินดู บ้านผมนะครับ 

มันตราที่ใช้นั้นใช้ของกรมศิลป์ที่แจกก็ได้ครับ แต่มนต์ส่วนใหญ่ที่มีกัน หรือโพสกันเท่าที่เห็น เป็นมนต์ที่ใช้บาลีแต่ง จรจะต่างจาก ฮินดูที่เป็น 
มนต์ สันสกฤษครับ หรือ ใช้ มหามนตร์ในคณปติอุปนิษัทก็ได้ (พีชะมนตร์) 
โอมฺ คํ คณปตเย นมะ 
(อ่านว่า โอม กัง กะนะปะตะเย นะมะฮ 
แปลว่า โอม คํ(พยางค์พีชะมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระคเณศ) ขอความนอบน้อม จงมีแด่พระคณปติ 
มันตรานี้ใช้ได้ทุกอย่างครับ ไม่ว่าจะสรงน้ำหรือถวายอะไร และใช้ภาวนาถึงพระองค์ในการทำสมาธิก็จะดีครับ 
แต่ของผม จะสาธยายมันตราต่อ ไปอีก โศลกมันยาว 555+ เพราะผม เบิกเนตรเอง ทำเอง ได้ ไม่ง้อใคร อิอิ 

โอม กนาอ้าม ตวา กาณาปติ กุม ฮาวามาเฮ 
คาวิมคาวีนา มุพามัสชราวัสตามัม เจสทาราจัม บรัมมานัสปตา 
อานัส จรุนันนุสติบิ ซีดาชาดานัม มหา กาณาปตะเย นมะฮา 
อันนี้คือโศลกเปิด และมีอีก 11 บท ที่จะต่อ แต่บทนี้ คนทั่วไป สวดได้ ครับ เอาไว้ใช้ภาวนา และ ถวายสิ่งของได้ เช่นเดียวกัน ครับ 
อ้อ เมื่อสวดมนต์เสร็จ ก็ ขอพรความสวัสดีกับตัวเราและครอบครัว และขอให้พระเป็นเจ้าอภัยในโทษานุโทษต่างๆที่เรากระทำเรียกว่า การกษมารปณํ 
แล้วสวดขอขมาที่อาจทำพิธีพลั้งพลาด ขออัญเชิญท่านกลับ ให้มีแต่ความสุข เรียกว่า การ วิสรจนํ 

และ แผ่เมตตา รั้งท้ายเลย แตก็ควรจะอารตี ก่อน เลิก พิธี ไม่อย่างนั้น จะถือว่า การบูชา ไม่สมบูรณ์